Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

พัฒนาการของลูกวัยประถมต้นและแนวทางการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับวัย

Posted By Plook TCAS | 15 พ.ย. 66
764 Views

  Favorite

           ลูกน้อยวัยประถมต้นของเราเติบโตเร็วมากทั้งทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม โดยสังเกตได้จากคำพูดที่บางครั้งฉาดฉานเหมือนเด็กโต การแสดงออกและความนึกคิดทางจิตใจพลิ้วไหวได้หลายรูปแบบ มีความอยากรู้อยากเห็นในสิ่งรอบตัวตามธรรมชาติของเด็กมากขึ้น ช่างซักถามในประเด็นข้อสงสัย มีเพื่อนวัยเดียวกันทั้งแถวบ้านและที่โรงเรียนหลายกลุ่ม มีพัฒนาการการเรียนรู้ทั้งด้านการอ่าน การเขียน และการพูดเพิ่มขึ้น พร้อมที่จะเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ได้ทุกวัน รู้จักเลือกอาหารการกินที่ตนเองชอบและไม่ชอบ รู้จักสร้างจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ในบางเรื่อง โดยอาจได้แนวคิดมาจากหนังการ์ตูนสุดโปรด การดูหนังสือนิทานภาพ การจำจากเรื่องเล่าที่เราเล่าให้ฟัง เกมและวีดิโอสนุก ๆ หรือจากการที่เราพาลูกไปเที่ยวนอกบ้าน หรือพักผ่อนตามสถานที่ต่าง ๆ ฯลฯ

            เมื่อลูกมีต้นทุนตามธรรมชาติดีอยู่แล้ว หากได้รับการส่งเสริมสนับสนุนเพิ่มเติม จะยิ่งทำให้ลูกมีต้นทุนที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้น หรือหากลูกอ่อนในต้นทุนดังกล่าวไปบ้าง เราก็สามารถพัฒนาให้ลูกเติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพที่พึงประสงค์ได้ ด้วยแนวทางการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับวัยของลูก ซึ่งเราสามารถจัดหาและจัดทำแนวทางเหล่านี้ได้ที่บ้าน นอกเหนือไปจากที่ทางโรงเรียนจัดให้แก่เด็กนักเรียนแล้ว ยิ่งลูกได้รับการเรียนรู้ที่มีความหลากหลาย ยิ่งทำให้ลูกได้สัมผัสกับเรื่องราวที่น่าสนใจมากขึ้น ช่วยกระตุ้นวิสัยทัศน์เชิงบวกต่อการเรียนรู้ ให้ลูกได้ตื่นตัว ตื่นตา ตื่นใจไปกับสิ่งที่ได้เรียนรู้ แนวทางการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับวัยของลูก และเราต้องส่งเสริมสนับสนุน เป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเราเอง มาดูกันค่ะ

 

จัดให้มีโอกาสและสถานที่ที่ลูกได้ใช้เวลาอย่างมีคุณค่า

            ลูกน้อยวัยประถมของเราไม่เคยปล่อยให้ตัวเองว่างเลย ลองสังเกตดูสิ เจ้าตัวน้อยจะเพลิดเพลินกับสารพัดกิจกรรมที่เราจัดไว้ให้ ทั้งในเรื่องการวาดภาพและระบายสี เล่นกระโดดเชือกหรือปั่นจักรยานกับเพื่อน ๆ ดูหนังการ์ตูน อ่านหนังสือนิทานภาพ เล่นโทรศัพท์ดูคลิปดี ๆ มีสาระที่เราตั้งค่าไว้ให้ เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายและแสดงความสามารถอยู่ตลอดเวลา การสอนให้ลูกรู้จักใช้เวลาอย่างมีคุณค่าและคุ้มค่า จะช่วยให้ลูกได้เรียนรู้เรื่องการจัดสรรเวลาและการใช้เวลาอย่างเหมาะสม ทั้งในเรื่องการเรียนและการเล่น

 

ส่งเสริมความสามารถทางสังคมของลูก

            ลูกมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นมากขึ้น ชอบเล่นกับพี่น้องและเพื่อน ๆ เป็นกลุ่ม ช่างเจรจาออเซาะฉอเลาะกับผู้ใหญ่ ทำให้ได้รับความรักความเมตตามากขึ้น เราจึงต้องส่งเสริมความสามารถทางสังคมให้ลูก ด้วยการพาลูกไปพบปะญาติผู้ใหญ่พี่น้องเพื่อนฝูงของเรา เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้การเข้าสังคม และปฏิบัติตนได้เหมาะสมกับบุคคลต่างวัย ทำให้ลูกได้เรียนรู้เรื่องการปรับตัวเมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น ในบางโอกาสเช่นวันคล้ายวันเกิดของลูก เราอาจจัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ เป็นขวัญกำลังใจให้ลูก โดยให้ลูกเชิญเพื่อน ๆ มาร่วมงาน มากินอาหารและขนมอร่อย ๆ ที่บ้านเรา มีเกมสนุกให้เล่นเพื่อฝึกทักษะการแก้ปัญหา มีนิทานดี ๆ ให้เลือกอ่าน เพื่อฝึกการคิดและการตัดสินใจ นั่งล้อมวงเล่านิทานที่อ่านกันมา แล้วเรามีรางวัลให้เป็นการส่งเสริมการอ่านให้ลูกและเพื่อน ๆ ของลูก และฝึกให้ลูกได้เล่นหรือทำงานกับเพื่อนเป็นกลุ่ม หรือเปิดเพลงสนุก ๆ อินเทรนด์ให้เด็ก ๆ ได้เต้นออกกำลังกายกัน เพื่อสร้างความคล่องตัวในการเคลื่อนไหวให้กลุ่มเจ้าตัวน้อย รับรองแดนซ์กันสะบัดไม่มีเหนื่อย นอกจากความสุขและความสนุกที่ได้รับจากกิจกรรมที่ทำร่วมกับเพื่อน ๆ ลูกยังได้เรียนรู้เรื่องการแบ่งปันอีกด้วย

 

สร้างศักยภาพการเรียนรู้ผ่านการเล่น

            ลูกน้อยสามารถสร้างสรรค์จินตนาการได้จากสิ่งต่าง ๆ ที่เห็นรอบตัว แนวทางการเรียนรู้ของลูกจึงควรมีความสนุกสนาน เช่น การเล่นกีฬาแนวถนัด การเล่นดนตรีด้วยอุปกรณ์ที่ลูกชอบ การเล่นเกมจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ให้ลูก หากลูกเล่นเกมร่วมกับพี่น้องหรือเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัว  จะช่วยให้ลูกพัฒนาทักษะทางสังคมได้ รู้จักแพ้รู้จักชนะ เรียนรู้การควบคุมอารมณ์ และมีการรอคอย เช่น เกมพัฒนาทักษะด้านการคิด ด้านคณิตศาสตร์ ด้านภาษา หรือเกมกระดาน เกมจับคู่ เกมเล่นกับคำ เกมคำศัพท์ เกมบิงโกของเล่นแสนสนุก ช่วยพัฒนา IQ ให้ลูกและเล่นกันได้ทั้งครอบครัว รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของลูกน้อยและสมาชิกทุกคนในครอบครัวเป็นเสมือนน้ำทิพย์ชะโลมใจทุกคนให้สดชื่น แจ่มใส มีความสนุกสนานร่าเริง และมีความรัก หรือการเล่นบัตรคำศัพท์ ซึ่งเป็นเกมพัฒนาความจำ หรือเกมจับคู่คือการเรียนรู้ด้วยภาพ ที่ช่วยให้ลูกทำความคุ้นเคยกับแง่มุมต่าง ๆ ของชีวิต หรือการเล่นโดยใช้สื่อประสาทสัมผัสเพื่อพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหว เช่นแป้งโดว์ที่เราอาจซื้อหาหรือทำเองก็ได้ การร้องเล่นเต้นรำคือของโปรดของเด็ก ๆ

            หากเรามีความรู้และความสามารถในเรื่องของโซเชียลมีเดีย และมีการตรวจสอบติดตามการใช้งานของลูกได้สม่ำเสมอ รวมทั้งมีการจำกัดเวลาอยู่หน้าจอ เราสามารถสอนลูกให้เล่นแอปพลิเคชันได้อย่างรับผิดชอบ ปลอดภัย และเหมาะสมกับวัยของลูกน้อย เช่น Facebook Kids Messenger ที่เราควบคุมการใช้งานของลูกได้ หรือ YouTube Kids ที่มีเนื้อหาที่เหมาะสมสำหรับเด็ก เพื่อให้เด็กได้สำรวจโลกและเรียนรู้วิธีสร้างแบบจำลอง ซึ่งน่าสนใจและชวนติดตามยิ่งนัก

 

ฝึกลูกให้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง

            เป็นการเรียนรู้ที่ง่ายและใกล้ตัวที่สุด เช่น พาลูกไปซื้อกับข้าวด้วยกันที่ตลาด ชี้ชวนลูกให้รู้จักพืชผักและเนื้อสัตว์ที่เราจะนำมาปรุงอาหาร การเลือกวัตถุดิบที่สะอาดและปลอดภัย และราคาสินค้าในตลาด อีกทั้งได้ทักทายพูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าที่คุ้นเคยเพื่อสร้างมิตรไมตรี หรือชวนลูกเข้าครัว ให้ช่วยล้างพืชผัก พูดคุยกันเรื่องประโยชน์และสารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกาย หรือให้ลูกช่วยทำงานบ้านอื่น ๆ ที่เหมาะกับวัย เช่นช่วยเก็บผ้าแห้งที่ราวแขวน หรือช่วยคุณพ่อรดน้ำต้นไม้ กวาดลานบ้าน เก็บใบไม้ใบหญ้า ทุกกิจกรรมนี้ช่วยเสริมสร้างพลังรักในครอบครัวให้แข็งแกร่ง เพื่อเป็นรากฐานของชีวิตที่เปี่ยมด้วยความรักและความมั่นคงตลอดไป

            การเตรียมความพร้อมให้ลูกน้อยวัยประถมต้นของเรา ด้วยการจัดแนวทางการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับพัฒนาการตามวัยของลูก เราควรใช้เวลาร่วมกันกับลูกอย่างต่อเนื่อง และเอาใจใส่ลูกของเราให้เต็มที่ จะทำให้เป็นประโยชน์กับลูกมากมาย ได้เสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น ลูกมีความสุข ความสนุก และความมั่นใจในชีวิต มีพื้นฐานทักษะด้านต่าง ๆ ที่แข็งแกร่ง ช่วยให้ลูกเติบโตขึ้นได้อย่างมีคุณภาพทั้งในปัจจุบันและอนาคต

 

ณัณท์

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook TCAS
  • 29 Followers
  • Follow